วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

>>ตายจากสุนัขไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดงส์และอธิษฐานลงมาเกิดเป็นปลายักษ์ยาว ๑ โยชน์

ตอนที่อาตมาและคณะเดินทางไปประเทศนิวซีแลนด์เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้ไปที่ทะเลสาบโรโตรัว ในทะเลสาบแห่งนี้ เวลานี้มีปลาอยู่ตัวหนึ่งรูปร่างคล้ายปลาตะโก้หรือปลาแดง ตัวยาว ๑ โยชน์ กำเนิดของปลาตัวนี้จริงๆ ในสมัยนั้นเป็นปลายสมัยพระพุทธเจ้าสมเด็จพระพุทธกัสสป เวลานั้นมีสุนัขตัวหนึ่ง พวกเมารีทั้งหมดไม่ชอบฆ่าสัตว์ ชอบเลี้ยงสัตว์ ชอบให้ทาน โปรดสัตว์มากและมีฝูงปลาอยู่ ชอบเลี้ยงปลาด้วย พอลงไปใกล้แม่นํ้าปลาจะวิ่งเข้ามาหาเลย สุนัขตัวนี้ก็ชอบไปดูปลาด้วย เวลาให้อาหารปลามันก็มองดู เวลาเขาเปิดอาหารปลาไว้ มันอยากไปดูปลามั่ง มันก็คาบอาหารโปรยและก็มองดูปลา

หลังจากตายจากสุนัขชาตินั้นแล้ว อาศัยมีเมตตาจิตก็ไปเสวยสุขอยู่บนแดนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลกชั่วคราว และอาศัยความมีเมตตาจิตจึงขออธิษฐานมาเกิดเป็นปลายักษ์ยาว ๑ โยชน์เพื่อเลี้ยงปลาตัวเล็กๆ เพราะเห็นปลาตัวเล็กๆ เป็นเหยื่อของปลาตัวใหญ่ หาอาหารได้ยาก ก็เอาตะไคร่นํ้าหรืออาหารที่ตัวเหลือกิน พ่นออกมาเลี้ยงปลาตัวเล็ก เวลานี้ก็ทำแบบนี้อยู่ ยามปกติไม่ไปไหนก็พลิกตัวไปพลิกตัวมา ขยับได้นิดหน่อย

ความจริงเขาก็มีความเป็นอยู่คล้ายเป็นทิพย์ ถึงแม้มีเศษอาหารสักนิดหนึ่งหรือเห็นตะไคร่นํ้าก็ตาม กินนิดเดียวก็อิ่ม ตะไคร่ที่ติดอยู่ข้างตัวก็เป็นอาหารของปลาเล็กๆ เมื่อปลาเล็กเข้าไปอยู่ใกล้ ปลาใหญ่ที่เป็นศัตรูจะไม่กล้าเข้าไปอยู่ใกล้ ไม่กล้าเข้าไปทำอันตรายบรรดาปลาทั้งหลายเหล่านั้น

รวมความว่าประวัติของปลาตัวใหญ่ยาว ๑ โยชน์มาจากสุนัขตัวเล็ก

ถามเขาว่า "จะอยู่อีกกี่ปี" เขายืนยันว่าเขาจะอยู่อีก ๒๙ ปีก็จะตายจากความเป็นปลาขึ้นไปอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ตามเดิม จากนั้นเขาตั้งใจรอพระศรีอาริย์ แต่ถ้ามาช้าเกินไปเขาจะไปก่อน เวลานี้เทวดาล้อมเขาเต็ม เทวดาไม่ต้องดำนํ้าหรอก

การที่ท่านเล่าเรื่องนี้ให้มิใช่ประสงค์จะให้ทะนงตัว แต่ให้จำไว้ว่าการเกิดชาติใดชาติหนึ่งก็ตาม มันเป็นอนิจจังหาความเที่ยงไม่ได้ จะเห็นว่าความเที่ยงแท้แน่นอนไม่มี ใครมีปัญญาก็เอาไปคิดเป็นวิปัสสนาญาณ.."

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น